การ์ดแต่งงานเป็นไอเทมหนึ่งในงานแต่งงานที่ขาดไม่ได้ ซึ่งนอกจากการ์ดแต่งงานแบบสำเร็จรูปที่เห็นกันได้ทั่วๆไปแล้ว ยังมีการ์ดแต่งงานประเภทอื่นๆ ทั้งการ์ดแบบฟิวชั่น การ์ด Customized การ์ดโมเดิร์น และอื่นๆอีกมากมาย
หากคุณเป็นเจ้าสาวที่ไม่ชอบเหมือนใคร อยากได้การ์ดแต่งงานที่ดีไซน์ขึ้นใหม่เฉพาะงานแต่งงานของคุณเท่านั้นล่ะก็ บอกเลยว่ามันต้องใช้เวลานานเป็นพิเศษกว่าการ์ดงานแต่งแบบอื่นๆมากเลยล่ะค่ะ จึงอยากคุณให้ลองประเมินเวลาและราคาของการ์ดแต่งงานแต่ละประเภท เป็นข้อมูลก่อนตัดสินใจนั่นเอง และนี่ก็คือประเภทการ์ดแต่งงาน และไทม์ไลน์สั่งพิมพ์ที่บ่าวสาวต้องรู้ จะมีอะไรบ้างไปดูกันเลยค่ะ
การ์ดงานแต่งสำเร็จรูป
การ์ดงานแต่งสำเร็จรูป เป็นการ์ดแต่งงานที่หลายๆคู่นิยมเลือกใช้ เพราะมาในราคาถูก และสั่งพิมพ์จำนวนน้อยๆได้ เหมาะกับงานแต่งงานที่จำนวนแขกไม่มากนัก รวมถึงใช้เวลาสั่งพิมพ์ไม่เกิน 2 สัปดาห์ก็ได้การ์ดแต่งงานมาแจกจ่ายให้แขกได้แล้ว ที่สำคัญ การ์ดงานแต่งสำเร็จรูปแบบนี้ คุณจะได้สัมผัสเนื้อกระดาษและเห็นหน้าตาการ์ดตัวจริงก่อนตัดสินใจเลือกแบบ รวมไปถึงฟ้อนท์ และการจัดวางตัวหนังสือ เพราะทางร้านการ์ดจะมีตัวอย่างโชว์ให้คุณได้เลือกจนกว่าจะพอใจเลยค่ะ
สิ่งเดียวที่คู่แต่งงานอาจขัดใจกับการ์ดงานแต่งสำเร็จรูปก็คือ คุณจะไม่สามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบใดๆภายในการ์ดได้เลย เนื่องจากเป็นการ์ดที่มีแพทเทิร์นตายตัว ซึ่งบ่าวสาวจะทำได้เพียงแค่เลือกแบบและสีตัวอักษรได้เพียงเท่านั้น แต่ก็เหมาะสำหรับคู่แต่งงานที่ต้องการความรวดเร็ว และราคาถูกนั่นเองค่ะ
การ์ดแต่งงานแบบพาสปอร์ตและบอร์ดดิ้งพาส
หลายคู่ที่ไม่อยากได้การ์ดงานแต่งสำเร็จรูป ก็อาจจะเริ่มมองหาตัวเลือกจากร้านการ์ดงานแต่งแบบ Customized ที่จะมีการ์ดแบบพิเศษเพิ่มลูกเล่นด้วยกิมมิคน่ารักๆ เช่น การ์ดงานแต่งที่ออกแบบให้เหมือนกับพาสปอร์ต สำหรับคู่รักชาวต่างชาติ หรืองานแต่งที่มีแขกมาจากหลายประเทศ หรืออาจจะเป็นการ์ดแต่งงานที่มาในรูปแบบพัด สำหรับงานเอาท์ดอร์ เพิ่มฟังก์ชั่นให้แขกได้พกกันอากาศร้อนอบอ้าวในช่วงกลางวัน ก็เก๋ไปอีกแบบ
การ์ดแต่งงานที่เป็นซองไปด้วยในตัว
ซึ่งหากคุณเลือกการ์ดแต่งงานแบบ Customized แล้ว ก็อาจจะเพิ่มข้อความ หรือดีเทลบางอย่างที่บ่งบอกความเป็นตัวคุณทั้งคู่ลงไปในการ์ดด้วย แต่ยังต้องยึดแพทเทิร์นหลักๆตามรูปแบบของทางร้านการ์ดเอาไว้ เพื่อการผลิตที่รวดเร็วค่ะ
การ์ดแต่งงานพร้อมพวงกุญแจ
หากคุณเป็นเจ้าสาวที่ไม่ชอบเหมือนใคร และไม่อยากให้ใครเหมือน ต้องเลือกการ์ดงานแต่ง Personalized ที่ดีไซเนอร์จะดีไซน์การ์ดแต่งงานให้คุณขึ้นมาใหม่ตามต้องการ อยากติดโบว์ ออกแบบใหม่ หรือเพิ่มลูกเล่นกิมมิคให้น่ารักน่าสนุกแค่ไหนก็ทำได้เต็มที่ ซึ่งส่วนใหญ่แล้ว คู่แต่งงานก็มักอยากได้การ์ดงานแต่งที่ลิงค์กับธีมงาน และบ่งบอกถึงตัวตนของเจ้าบ่าวเจ้าสาวเองด้วย
การ์ดแต่งงานติดโบว์
ถึงแม้ว่าการ์ดงานแต่งแบบนี้ จะมีราคาแพง และใช้เวลาในการสั่งพิมพ์ค่อนข้างนาน แต่เชื่อเลยว่าจะต้องเป็นการ์ดแต่งงานที่ถูกใจคุณมากที่สุด ยิ่งหากเจ้าบ่าวหรือเจ้าสาวมีหัวทางดีไซน์อยู่แล้วด้วยล่ะก็ รับรองว่าการ์ดงานแต่งของคุณจะต้องกลายเป็นของที่แขกในงานอยากได้เก็บไว้ตกแต่งบ้าน เพราะความสวยและลูกเล่นที่น่ารักของมันแน่นอนค่ะ
การ์ดงานแต่งลายฉลุ และ 3D
สำหรับคู่รักที่ชอบความแกรนด์หรูหราเป็นพิเศษ น่าจะสนใจการ์ดงานแต่งที่บ่งบอกถึงรสนิยม และความละเอียดในตัวชิ้นงานโดยเฉพาะ อย่างการ์ดงานแต่งลายฉลุและการ์ดงานแต่งแบบสามมิติ รับรองเลยว่าจะต้องเป็นการ์ดแต่งงานที่โดดเด่นไม่เหมือนใครและสร้างความรู้สึกประทับใจให้ผู้รับได้เป็นอย่างดี
การ์ดงานแต่งลายฉลุ และ 3Dโดยมากเป็นการ์ดนำเข้าจากต่างประเทศ เพราะมีผู้สั่งจำนวนไม่มาก ทำให้ราคาต่อใบค่อนข้างสูง และใช้เวลาในการผลิตนาน แต่ก็แลกมาด้วยวัสดุคุณภาพดี และความปราณีตในการผลิตที่ใช้เทคโนโลยีสูงกว่าการ์ดทั่วๆไปด้วยค่ะ
สำหรับไทม์ไลน์ในการสั่งพิมพ์การ์ดแต่งงาน ก็เป็นอีกหนึ่งปัญหาคาใจที่บ่าวสาวหลายๆคนสงสัย Happy Wedding.life มีคำแนะนำเล็กๆน้อยๆ มาฝากกันค่ะ
5 เดือนก่อนแต่งงาน: หา Reference การ์ดแต่งงานที่อยากได้
คุณอาจเริ่มมองหาไอเดียการ์ดแต่งงานแบบต่างๆ แล้วประเมินดูราคากับเวลาในการสั่งพิมพ์ให้เหมาะกับงานแต่งงานของคุณ อย่าลืมปรึกษาญาติผู้ใหญ่ด้วยนะคะ
4 เดือนก่อนแต่งงาน: ลิสต์รายชื่อแขกของเจ้าบ่าวและเจ้าสาว
ส่วนนี้แหละค่ะที่จะทำให้คุณรู้ว่าควรจะสั่งพิมพ์การ์ดจำนวนเท่าไหร่ เมื่อได้รายชื่อแขกของแต่ละฝ่ายแล้ว ให้นำมารวมกันแล้วบวกจำนวนการ์ดเพิ่มไปอีก 50-100 ใบ เผื่อเหลือดีกว่าขาดนะคะ
3 เดือนก่อนแต่งงาน: คุยกับร้านการ์ดที่สนใจและเริ่มสั่งพิมพ์
ช่วงนี้เจ้าบ่าวเจ้าสาวต้องเริ่มแอคทีฟได้แล้วค่ะ ลองโทรไปคุยหรือปรึกษากับร้านการ์ดที่คุณสนใจ เพื่อให้ดีไซน์เนอร์ได้มีเวลาทำงาน และปรับแก้แบบให้คุณได้อย่างเต็มที่
2 เดือนก่อนแต่งงาน: รับการ์ดแต่งงานและเริ่มเชิญแขก
เป็นเวลาที่เหมาะสำหรับเจ้าบ่าวเจ้าสาวที่จะเริ่มเดินสายเชิญแขก ดังนั้นช่วง 2 เดือนก่อนแต่งงานคุณต้องมีการ์ดแต่งงานอยู่ในมือเรียบร้อยแล้วนะคะ เพื่อให้แขกเตรียมตัวไปงานแต่งงานของคุณได้แบบไม่กะทันหันเกินไปค่ะ
