ออกแบบการ์ดแต่งงานอย่างไรให้ออกมาเก๋ไก๋สไตล์คุณ

เมื่อได้กำหนดงานแต่งงานกันแล้ว ขั้นตอนต่อจากนั้นเราจะไม่สามารถพิมพ์การ์ดแต่งงานแจกได้เลย หากว่าบ่าวสาวไม่เลือกการ์ดแต่งงานกันเสียก่อน สำหรับการ์ดแต่งงานนั้นมีความสำคัญอย่างมากในงานพิธีแต่งงาน เพราะจะต้องใช้เป็นสื่อหรือตัวแทนในการเชิญแขกคนสำคัญให้มาร่วมงานของคุณ และสำหรับบ่าวสาวคู่ไหนที่กำลังมองหาการ์ดแต่งงานแบบเก๋ไก๋ สวยอย่างแตกต่างไม่ซ้ำแบบใคร วันนี้เรามีคำแนะนำในการเลือกใช้การ์ดเก๋ๆ ให้ง่ายโดนใจมาฝากกันแล้ว

9

เลือกใช้การ์ดแต่งงานอย่างไรให้ออกมาเก๋ไก๋สไตล์คุณ

ครีเอทการ์ดแต่งงานด้วยตัวคุณเอง

บ่าวสาวสมัยนี้มักมองหาการ์ดแต่งงานในแบบตัวเองด้วยกันทั้งสิ้น หมดยุคแล้วที่จะต้องใช้การ์ดแบบสำเร็จรูป หรืออาจจะมีน้อยเหลือเกิน สำหรับคู่บ่าวสาวที่ต้องการเผยความเป็นตัวเองแบบไม่เหมือนใคร หลายคู่รักจึงมักหันมาครีเอทการ์ดเชิญงานแต่งงานด้วยตัวเองกันทั้งนั้ วิธีการทำการ์ดก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกด้วย เพราะเพียงมีภาพคู่รักที่ถ่ายด้วยกันอาจจะเป็นภาพถ่ายพรีเว็ดดิ้งก็ได้ นำมาเป็นองค์ประกอบในฉากบนเรือนการ์ดแต่งจากนั้นระบุวางข้อความเชิญต่างๆ ลงไปอย่างเสร็จสรรพ ในกำหนดการและรายละเอียดต่างๆ ที่การ์ดเชิญต้องมี เท่านี้ก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อยแล้ว และไม่ต้องเสียเงินแพงๆ อีกด้วย เสียก็เพียงแค่ค่าปรินท์ในแบบกระดาษการ์ดโฟโต้เท่านั้นเอง

เลือกใช้การ์ดแต่งงานอย่างไรให้ออกมาเก๋ไก๋สไตล์คุณ

เลือกการ์ดแต่งงานแปลกไม่เหมือนใคร

การเลือกการ์ดแต่งงานแบบแปลกๆ ไม่เหมือนใครนั้นก็สามารถหาเลือกชมได้เช่นกันจากร้านขายการ์ดแต่งงานหลากหลายร้าน การ์ดสมัยนี้มีทั้งสวย หวาน น่ารัก หลากหลายสไตล์ด้วยกัน แต่ถามว่ามีแบบแปลกตาไม่เหมือนใครบ้างไหม ย่อมมีอย่างแน่นอน เพราะฉะนั้น หากต้องการฉีกกฏจากการ์ดแต่งงานสไตล์หวาน สวย น่ารักแบบเมื่อก่อนก็อย่าลืมมองหาการ์ดแต่งงานแปลกไม่เหมือนใครมาใช้กันนะคะ

5เลือกใช้การ์ดแต่งงานอย่างไรให้ออกมาเก๋ไก๋สไตล์คุณ

การ์ดสุดเก๋โดนใจ ไม่จำเป็นต้องสวย

อยากให้งานแต่งงานออกมาแตกต่างไม่ซ้ำใครอาจจะเป็นไปได้ยาก แต่หากต้องการเลือกการ์ดแต่งงานให้ออกมาไม่เหมือนใครนั้นย่อมมีโอกาสเป็นไปได้ เพราะสมัยนี้ มีการ์ดแต่งงานมากมายที่ผลิตออกมาวางจำหน่าย แต่ละใบมีทั้งสไตล์หวาน เรียบหรู สวย เก๋ไก๋ ด้วยกันทั้งนั้น เหล่าแต่ละการ์ดล้วนมีเอกลักษณ์ในความเป็นตัวเอง เพราะฉะนั้น หากบ่าวสาวคู่ใดที่ต้องการเลือกการ์ดสุดเก๋โดนใจ ขอบอกเลยว่าคุณอาจจะไม่ต้องมองหาการ์ดที่สวยเสมอไปหรอกนะคะ บางทีการ์ดสีพื้นธรรมดา ไม่มีลวดลายงดงามอ่อนช้อนหรือไร้ไดคัทตกแต่งหวานๆ นั่นแหละ อาจจะเป็นการ์ดที่หากนำมาใช้แล้วจะพบว่ามันมีเสน่ห์อย่างแตกต่างอย่าบอกใครเลยเชียว

เลือกใช้การ์ดแต่งงานอย่างไรให้ออกมาเก๋ไก๋สไตล์คุณ

สีสันการ์ดที่ไม่ต้องหวานเสมอไปแต่โดดเด่น

บนตัวเรือนการ์ดแต่งงานโดยทั่วไป เรามักจะคุ้นตากันเสียแล้วกับการ์ดแต่งงานที่สีสันอ่อนหวาน เช่น สีฟ้า ชมพู ขาว ครีม เขียวและสีขาว มาพร้อมกระดาษมุกบ้างก็มีเพื่อเป็นไอเดียสะท้อนความโรแมนติค แต่หากบ่าวสาวต้องการใช้การ์ดที่มีสีสันเรียบง่ายไม่หวือหวาก็สามารถมองหาสีสันที่แปลกแตกต่างจากที่เราระบุไว้ข้างต้นได้เลยเช่นกัน อาจจะเป็นสีทอง สีน้ำเงินหรือแม้แต่สีเทาๆ หรือสีน้ำตาลก็เป็นอีกเฉดสีที่นำพาความลงตัวอย่างแตกต่างมาให้คุณได้เลยใช้เหมือนกัน

เคล็ดลับ 5 ข้อ ในการเลือกการ์ดแต่งงาน

ในการเลือกการ์ดแต่งงานสำหรับเป็นสานสำหรับวันพิเศษของเรา จริงๆแล้วไม่มีสูตรตายตัวหรอกครับว่าต้องออกมาเป็นแบบไหน เรามีอิสระในการเลือกออกแบบตามท่ีต้องการได้เลย ซึ่งเคล็ดลับ5ข้อที่เราได้เขียนขึ้นมานี้ เพื่อว่าจะสามารถทำให้บ่าว-สาวที่มีปัญหาในการเลือกการ์ดแต่งงานอยู่มีการตัดสินใจที่ง่ายขึ้น

.144

 

1.รู้สไตล์งานแต่งของคุณ

ก่อนที่คุณจะเลือกการ์ดแต่งงานของคุณ คุณต้องตอบตัวเองให้ได้ก่อนว่าอยากให้สไตล์งานแต่งของคุณออกมารูปแบบไหน ธีมอะไร คลาสสิกและสง่างามสบาย ๆ และผ่อนคลาย หรือดูน่าเกรงขามและทันสมัย แล้วคุณจะได้คำตอบของรูปแบบการ์ดที่คู่ควรสำหรับงานของคุณ.

.

3

2.การเลือกขนาดการ์ด

โดยทั่วไปแล้ว ขนาดมาตรฐานของการ์ดจะอยู่ที่ 4×6”, 5×7” และขนาดอื่นๆ อย่างไรก็ตามเราสามารถออกแบบรูปทรงหรือขนาดการ์ดตามที่เราต้องการได้เลย แต่อย่าลืมพิจารณาว่าการเบี่ยงเบนขนาดของการ์ดที่ต่างจากมาตรฐานนั้น จะมาสามารถใส่ในซองการ์ดที่มีขนาดสำหรับการ์ดมาตรฐานได้หรือไม่.

.3.ข้อมูลการ์ด

ข้อมูลที่จะใส่ในการ์ด ควรเป็นข้อมูลที่รวบรัด เข้าใจง่าย ระบุรายละเอียดที่ชัดเจน เพื่อสะดวกต่อการอ่านของแขกที่เราเชิญ และอย่าลืมเช็คหรือทวนข้อมูลก่อนที่จะส่งมอบให้กับแขก.

.

3

4.ควรทำการ์ดเกินจำนวนแขก

ถึงแม้ว่าเป็นเรื่องปกติที่เจ้าภาพทุกคนจะนับจำนวนแขกที่จะเชิญก่อนทำการ์ด แต่ทางที่ดีควรทำเผื่อไว้เกินจำนวนที่ได้ตั้งไว้ เพราะว่าถ้าหากคุณต้องการเชิญแขกเพิ่ม แล้วคุณต้องกลับมาทำใหม่ จะทำให้มีค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นมากกว่าเดิม.

.5.ทำการ์ดล่วงหน้า

เราควรส่งคำเชิญ 10 ถึง 12 สัปดาห์ก่อนวันงาน ดังนั้นจะเป็นการดี ถ้าหากเราทำการ์ดเชิญล่วงหน้าอย่างน้อย 4-6 เดือน.

7

6.พิจารณาค่าใช้จ่าย

การ์ดเชิญโดยทั่วไปแล้วจะมีราคาเริ่มต้น 2.50 จนถึง 15 บาทหรือมากกว่านั้น ขึ้นอยู่กับการรูปแบบการ์ด เพราะฉนั้นเราควรจะพิจารณาถึงค่าใช้จ่ายของการ์ดและจำนวนแขกที่เราต้องการเชิญด้วย

.

dee sineny

Add your Biographical Info and they will appear here.